ไฟเซอร์ อิงค์ (Pfizer Inc.) บริษัทยารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ แถลงวันนี้ (5 พ.ย.) ว่า ผลการทดลองในระยะที่ 3 สำหรับยาเม็ดชนิดรับประทานเพื่อรักษาโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ พบว่า ยาดังกล่าวสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ถึง 89%
ทั้งนี้ ไฟเซอร์ตั้งชื่อยารักษาโรคโควิด-19 ของตนว่า Paxlovid (แพ็กซ์โลวิด) โดยผู้ป่วยจะรับประทานยาวันละ 2 ครั้ง ๆ ละ 3 เม็ด
บริษัทไฟเซอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ยุติการทดลองแล้ว ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม หลังพบว่ายาดังกล่าวมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และบริษัทจะส่งผลการทดลองดังกล่าวให้แก่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (Fda) หลังจากที่ไฟเซอร์ได้ยื่นเรื่องขออนุมัติการใช้ยาดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉินต่อ Fda เมื่อเดือนต.ค.
นายอัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของไฟเซอร์ กล่าวว่า ข่าวดีวันนี้ถือเป็น “ตัวเปลี่ยนเกมที่แท้จริง” ในความพยายามยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19
ก่อนหน้านี้ บริษัทคู่แข่งอย่าง “เมอร์ค” (Merck) เปิดตัวยาเม็ดรักษาโควิด-19 ชื่อ “โมลนูพิราเวียร์” โดยผลทดสอบระยะที่ 3 ที่เปิดเผยเมื่อต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา พบว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ช่วยลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ 50% อีกทั้งมีประสิทธิภาพในการรับมือกับโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา แกมมา และมิวด้วย
“Esploratore. Appassionato di bacon. Social mediaholic. Introverso. Gamer. Studente esasperatamente umile.”